รับมือกับปัญหาในวันที่เงินขาดมือ และแหล่งกู้เงินที่ผู้ประกอบการควรรู้

 

ผู้ประกอบการหลายท่านรู้ดีว่าจำนวนเงินที่หมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบ ตลอดจนกระบวนการผลิตจนถึงการได้เงินจากลูกค้าปลายทางมีความสำคัญกับธุรกิจเป็นอย่างมาก การมีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการที่ดี ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการได้มากขึ้น เพราะคุณจะสามารถรับมือกับ รายการสินค้าเร่งด่วนจากลูกค้าได้ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถรักษาความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าได้ หากมีเงินหมุนเวียนเพียงพอ ธุรกิจก็สามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงัก เช่นกันกับการมีเงินเพียงพอในการชำระหนี้กับเจ้าหนี้ได้ตรงเวลา ทำให้คุณมีเครดิตทางการค้าที่ดี ซึ่งหากมีการหมุนเวียนเงินในบัญชีที่ดีก็อาจจะส่งผลให้การขอกู้เงินในอนาคตนั้นง่ายขึ้นหรือได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง แต่ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดมักมีเข้ามาเสมอ แล้วจะรับมือกับปัญหาเงินขาดมืออย่างไร วันนี้เรามีแหล่งกู้เงินทุนที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในยามฉุกเฉินที่ผู้ประกอบการควรรู้ไว้ มาดูว่าคุณมีแหล่งกู้เงินเหล่านี้อยู่ใกล้ ๆ หรือไม่

1.บัตรเครดิต (Credit Card)

บัตรเครดิตเป็นอีกตัวช่วยที่จะสามารถทำให้ธุรกิจของคุณมีเงินทุนหมุนได้ ข้อดีของบัตรเครดิตคือสามารถยืดระยะเวลาการจ่ายเงินไปได้มากสุดถึง 55 วัน ทำให้คุณสามารถนำเงินสดที่มีอยู่ไปหมุนเวียนในกิจการก่อนได้ และการกู้เงินผ่านบัตรเครดิตในกรณีที่ถือบัตรเครดิตในนามของบริษัทยังสะดวกในการทำบัญชีชำระเงินผ่านระบบออนไลน์อีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือหากผิดนัดชำระตามกำหนดต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง และบางร้านค้าที่เป็นคู่ค้าของผู้ประกอบการอาจจะไม่รับการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต อีกทั้งวงเงินในการใช้จ่ายขึ้นกับเครดิตที่ธนาคารเป็นผู้ให้ อย่างไรก็ตามหากคุณมีเครดิตดี ธนาคารจะปล่อยให้กู้เงินเป็นจำนวนมากถึงหลักล้านเลยทีเดียว

นอกจากนี้ บัตรเครดิตยังสามารถกดเงินสดเพื่อนำเงินในจำนวนวงเงินที่คุณได้รับนั้นออกมาใช้ก่อนได้ แต่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกด 3% และเสียค่าภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% จากยอดเงินที่กด โดยที่ธนาคารจะเริ่มคิดอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่กดเงิน นับว่าเป็นการกู้เงินที่เร็วทันใจมาก ๆ

2. บัตรกดเงินสด (Cash Card)

บัตรกดเงินสด เป็นอีกหนึ่งแหล่งกู้เงินในกรณีฉุกเฉินของผู้ประกอบการที่ต้องการเงินสดแบบเร่งด่วน ซึ่งจะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบรายวัน นับตั้งแต่วันที่กดเงินออกจากตู้และมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 18%-28% นับว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงเลยทีเดียว ข้อดีของบัตรกดเงินสดคือ ได้เงินทันที วงเงินกู้สูงสุดค่อนข้างสูงมากกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ข้อเสีย คือ อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ เช่นกัน ข้อกำหนดของธนาคารในการกู้เงินบางครั้งทำให้เจ้าของกิจการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าพนักงานประจำ

3. โรงรับจำนำ

มาถึงทางเลือกแหล่งกู้เงินทุนสุดท้ายที่เราจะมานำเสนอให้คุณในวันนี้ นั้นก็คือ โรงรับจำนำ คุณสามารถนำสิ่งของที่มีค่า อย่างเช่น แหวนเพชร ทองคำ นาฬิกา หรือ คอมพิวเตอร์ มาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเพื่อแลกเป็นเงินสด มีการจ่ายดอกเบี้ยตามตกลง หากมีการผิดนัดชำระเงินคืนเกินกว่าเวลาที่กำหนด โรงรับจำนำจะถือว่าสินทรัพย์นั้นได้กลายเป็นของโรงรับจำนำโดยปริยาย ข้อดีคือ ได้เงินไว ใช้สิ่งของที่มีราคาทุกชนิดมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ สามารถนำเงินมาไถ่ถอนของคืนได้เมื่อต้องการภายในระยะเวลาที่กำหนด สำหรับโรงรับจำนำของรัฐมีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ คือ 0.25% – 1% ต่อเดือน ข้อเสียคือ วงเงินที่ได้ไม่สูงนัก คาดหวังไว้เลยว่าสิ่งของหนึ่งชิ้นมักจะกู้เงินได้ไม่เกิน 100,000 บาท และ 1 คนได้วงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อวัน

เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับแหล่งกู้เงินทุนสำรองทั้ง 3 ประเภทที่เรานำเสนอให้คุณในวันนี้ โปรดเลือกแหล่งกู้เงินให้เหมาะกับธุรกิจและเหมาะกับแต่ละสถานการณ์ของคุณ เพราะอย่างที่กล่าวมาแต่ละแหล่งกู้เงินได้ไม่เท่ากันและมีความยากง่ายในการอนุมัติเงินกู้ต่างกันนั่นเอง

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com